นับจากการสถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูตเมื่อ 30 ปีที่แล้ว จีนและสมาคมประชาชาติแห่งเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ (อาเซียน) ได้จับมือก้าวไปข้างหน้าด้วยกันและประสบผลสำเร็จในหลายด้าน โดยเป็นตัวอย่างอันยอดเยี่ยมของความสัมพันธ์ระดับทวิภาคีที่สดใสและประสบความสำเร็จสูงสุดในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก

เพื่อยกระดับความสัมพันธ์นี้ นายสี จิ้นผิง ประธานาธิบดีแห่งสาธารณรัฐประชาชนจีน ได้ประกาศความเป็นหุ้นส่วนทางยุทธศาสตร์ครอบคลุมรอบด้านระหว่างจีน-อาเซียน ในขณะรับหน้าที่เป็นประธานการประชุมสมัยพิเศษเพื่อเฉลิมฉลองวาระครบรอบ 30 ปี ความสัมพันธ์จีน-อาเซียน ผ่านทางวิดีโอลิงก์ ณ กรุงปักกิ่ง เมื่อเช้าวันจันทร์ที่ผ่านมา

เขากล่าวว่านี่คือ "หลักชัยสำคัญใหม่" ในหน้าประวัติศาสตร์ความสัมพันธ์จีน-อาเซียน โดยความเคลื่อนไหวครั้งนี้จะเป็นแรงกระตุ้นใหม่ในการสร้างสันติภาพ เสถียรภาพ ความเจริญรุ่งเรือง รวมถึงการพัฒนาภูมิภาคและทั่วโลก

เพื่อนบ้าน มิตร และหุ้นส่วนที่ดีเยี่ยม

ในการประชุมครั้งนี้ นายสี จิ้นผิง ได้กล่าวยกย่องมิตรภาพอันงดงามและความร่วมมือที่เป็นประโยชน์ระหว่างจีน-อาเซียน ตลอด 30 ปีที่ผ่านมา พร้อมกับระบุว่าประสบการณ์ความร่วมมืออันมีค่าเป็นทั้งรากฐานและเครื่องนำทางในการพัฒนาความเป็นหุ้นส่วนทางยุทธศาสตร์ครอบคลุมรอบด้าน

ประธานาธิบดีจีนกล่าวว่า ความสำเร็จของความร่วมมือระดับทวิภาคีเป็นผลพวงมาจากความใกล้ชิดทางภูมิศาสตร์และความสัมพันธ์ทางวัฒนธรรม และที่สำคัญกว่านั้นคือการที่ทั้งสองฝ่ายต่างอ้าแขนรับแนวโน้มการพัฒนาในแต่ละยุคสมัย และตัดสินใจเลือกสิ่งที่ถูกต้องในอดีตที่ผ่านมา

การค้าระหว่างจีนกับอาเซียนพุ่งขึ้นราว 85 เท่านับตั้งแต่ทั้งสองฝ่ายสถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูตเมื่อปี 2534 โดยจีนเป็นคู่ค้ารายใหญ่ที่สุดของอาเซียนติดต่อกัน 12 ปี นับตั้งแต่ปี 2552 และอาเซียนก็กลายเป็นคู่ค้ารายใหญ่ที่สุดของจีนในปี 2563

สำหรับในช่วงครึ่งแรกของปีนี้ การค้าทวิภาคีระหว่างจีน-อาเซียน ยังคงขยายตัวอย่างแข็งแกร่ง โดยเติบโต 38.2% เมื่อเทียบรายปี และมีมูลค่าการลงทุนระหว่างกันกว่า 3.10 แสนล้านดอลลาร์

ยิ่งไปกว่านั้น จีนยังช่วยเหลือประเทศสมาชิกอาเซียนในการต่อสู้กับการแพร่ระบาดของโควิด-19 โดย ณ เดือนตุลาคม จีนได้มอบวัคซีนโควิด-19 กว่า 300 ล้านโดส รวมถึงเวชภัณฑ์ฉุกเฉินมากมายให้แก่ประเทศสมาชิกอาเซียน ทั้งยังส่งทีมบุคลากรทางการแพทย์ไปช่วยสร้างห้องปฏิบัติการทดสอบไวรัสและทดลองวัคซีนร่วมกับหลายประเทศในอาเซียน

"จีนเป็นเพื่อนบ้าน มิตร และหุ้นส่วนที่ดีเยี่ยมของอาเซียนทั้งในอดีต ปัจจุบัน และอนาคต" นายสี จิ้นผิง กล่าวย้ำ พร้อมกับระบุว่าจีนจะให้ความสำคัญสูงสุดกับอาเซียนในส่วนของความสัมพันธ์ทางการทูตกับประเทศเพื่อนบ้าน

เพื่ออนาคตร่วมกันและบ้านหลังเดียวกัน

เมื่อกล่าวถึงความสัมพันธ์ในอนาคตระหว่างจีนกับอาเซียน ประธานาธิบดีจีนได้นำเสนอแนวทาง 5 ประการ พร้อมกับกระตุ้นให้พยายามกระชับความร่วมมือระหว่างประชาคมอาเซียนกับจีนที่มีอนาคตร่วมกัน ตลอดจนผลักดันให้ภูมิภาคและทั่วโลกเจริญรุ่งเรืองยิ่งขึ้น

นายสี จิ้นผิง เรียกร้องให้สร้างบ้านที่สงบสุขร่วมกัน โดยกล่าวกับประเทศสมาชิกอาเซียนว่า "จีนจะไม่มีวันใช้อำนาจครอบงำ และจะไม่รังแกประเทศที่เล็กกว่า"

นอกจากนี้ นายสี จิ้นผิง กล่าวว่า จีนสนับสนุนความพยายามของอาเซียนในการสร้างเขตปลอดอาวุธนิวเคลียร์ และพร้อมลงนามในพิธีสารของสนธิสัญญาว่าด้วยเขตปลอดอาวุธนิวเคลียร์ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้โดยเร็วที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้

"การแพร่ระบาดของโควิด-19 เป็นเครื่องพิสูจน์อีกครั้งหนึ่งว่า ไม่มีที่ใดในโลกที่สามารถปลอดภัยอยู่ที่เดียว และมีเพียงความปลอดภัยสากลเท่านั้นที่จะก่อให้เกิดความปลอดภัยอย่างแท้จริง" ประธานาธิบดีจีนกล่าว พร้อมกับระบุถึงความจำเป็นในการสร้างบ้านที่มั่นคงปลอดภัยร่วมกัน

เขากล่าวเสริมว่า จีนพร้อมทำงานร่วมกับประเทศสมาชิกอาเซียนเพื่อร่วมกันสร้าง "เกราะป้องกันสุขภาพ" สำหรับภูมิภาค โดยจีนจะบริจาควัคซีนโควิด-19 เพิ่มเติมอีก 150 ล้านโดสให้ประเทศสมาชิกอาเซียน และให้เงินสนับสนุนเพิ่มเติมอีก 5 ล้านดอลลาร์แก่กองทุนอาเซียนรับมือโควิด-19 (COVID-19 ASEAN Response Fund)

"ความพยายามร่วมกันเป็นสิ่งที่จำเป็นในการรักษาเสถียรภาพของทะเลจีนใต้และผลักดันให้เป็นทะเลแห่งสันติภาพ มิตรภาพ และความร่วมมือ" นายสี จิ้นผิง กล่าว

นอกจากนี้ ประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ยังประกาศมาตรการต่าง ๆ เพื่อสร้างบ้านที่เจริญรุ่งเรืองร่วมกับประเทศสมาชิกอาเซียน ได้แก่ การมอบเงินสนับสนุนการพัฒนาอาเซียนอีก 1.5 พันล้านดอลลาร์ตลอด 3 ปีข้างหน้า เพื่อสนับสนุนการต่อสู้กับโควิด-19 และการฟื้นฟูเศรษฐกิจ, การซื้อผลผลิตทางการเกษตรมูลค่าสูงสุด 1.50 แสนล้านดอลลาร์จากอาเซียนตลอด 5 ปีข้างหน้า, การมอบเทคโนโลยีขั้นสูงที่มีประโยชน์ 1,000 รายการให้แก่อาเซียน และการสนับสนุนนักวิทยาศาสตร์รุ่นเยาว์ 300 คนจากอาเซียนให้เดินทางมาแลกเปลี่ยนที่จีนตลอด 5 ปีข้างหน้า

นายสี จิ้นผิง กล่าวว่า "ความกลมกลืนกับธรรมชาติคือพื้นฐานของการพัฒนาอย่างยั่งยืนของมวลมนุษยชาติ" และจีนพร้อมพูดคุยอย่างเปิดกว้างกับอาเซียนในเรื่องการรับมือกับปัญหาสภาพภูมิอากาศ โดยทั้งสองฝ่ายสามารถยกระดับความร่วมมือด้านพลังงานสะอาด การเงินและการลงทุนสีเขียว การเกษตร รวมถึงการพัฒนาอย่างยั่งยืนทางทะเล

นอกจากนี้ นายสี จิ้นผิง ได้เน้นย้ำถึงความสำคัญของการสร้างบ้านที่อยู่ร่วมกันฉันมิตร พร้อมกับเรียกร้องให้ทั้งสองฝ่ายสนับสนุนค่านิยมด้านมนุษยธรรมร่วมกัน ส่งเสริมการแลกเปลี่ยนระหว่างประชาชน และยกระดับการเรียนรู้ซึ่งกันและกันระหว่างอารยธรรม

นายสี จิ้นผิง ยกคำกล่าวของรัฐบุรุษจีนในยุคโบราณที่ว่า "การยึดมั่นในความยุติธรรมย่อมนำไปสู่ชัยชนะ และการกระทำเพื่อประโยชน์ของประชาชนย่อมประสบความสำเร็จ" โดยเขาขอให้ประเทศพันธมิตรในอาเซียนอย่าลืมว่าประชาชนต้องการมีชีวิตที่ดีขึ้น พร้อมกับขอให้ช่วยกันแบกรับภารกิจในการรักษาสันติภาพและส่งเสริมการพัฒนา

https://news.cgtn.com/news/2021-11-22/Xi-chairs-summit-marking-anniversary-of-ASEAN-China-dialogue-relations-15oga5BCb3q/index.html