ในปี ค.ศ. 1908 นิตยสาร "Tianjin Youth" ตั้งคำถามว่า "จีนจะได้เป็นเจ้าภาพโอลิมปิกเมื่อไหร่" หลังจากนั้นหนึ่งร้อยปี จีนก็ได้เป็นเจ้าภาพโอลิมปิกฤดูร้อนปี 2008 และนับถอยหลัง 100 วัน จีนก็กำลังจะจัดการแข่งขันโอลิมปิกฤดูหนาวปักกิ่ง 2022 นับเป็นการสานฝันโอลิมปิกอีกครั้ง

สโลแกนของโอลิมปิกฤดูหนาวปักกิ่ง 2022 คือ "Winter Dream" หรือ ความฝันแห่งฤดูหนาว เพื่อสะท้อนถึงความสำเร็จในการสานฝันเป็นเจ้าภาพโอลิมปิกฤดูหนาวของจีน ส่งเสริมให้ชาวจีนหันมาเล่นกีฬาฤดูหนาวกันมากขึ้น สร้างจีนให้เป็นมหาอำนาจด้านกีฬา รวมทั้งสนับสนุนกีฬาฤดูหนาวและกระบวนการโอลิมปิกทั่วโลก

ประธานาธิบดีสี จิ้นผิง เป็นแฟนกีฬาตัวจริง ในหลายโอกาสเขาได้แสดงให้เห็นว่ามีความรู้ความเข้าใจเรื่องกีฬา และเป็นผู้นำในการเปลี่ยนประเทศจีนให้กลายเป็นมหาอำนาจด้านกีฬา ซึ่งเขาระบุว่าเป็นเป้าหมายหนึ่งภายใต้ความฝันของจีนในการฟื้นฟูประเทศ

คำมั่นสัญญาอันจริงจังของจีน

"ปักกิ่ง!" ชื่อเมืองหลวงของจีนได้รับการประกาศก้องเป็นครั้งที่สองในฐานะเจ้าภาพจัดการแข่งขันโอลิมปิก เมื่อวันที่ 31 กรกฎาคม 2015 ส่งผลให้ปักกิ่งเป็นเมืองแรกของโลกที่ได้เป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันทั้งโอลิมปิกฤดูร้อนและฤดูหนาว

ตั้งแต่การเสนอตัวเป็นเจ้าภาพไปจนถึงการเตรียมความพร้อมจัดการแข่งขันโอลิมปิกฤดูหนาว ประธานาธิบดีสี จิ้นผิง รับบทบาทเป็นผู้นำมาโดยตลอด

ไม่กี่ชั่วโมงก่อนที่สมาชิกคณะกรรมการโอลิมปิกสากล (IOC) จะโหวตเลือกเจ้าภาพ นายสี จิ้นผิง ได้กล่าวสุนทรพจน์ผ่านทางโทรทัศน์ว่า "หากการแข่งขันโอลิมปิกฤดูหนาว 2022 ได้จัดที่จีน ก็จะช่วยส่งเสริมการแลกเปลี่ยนและความเข้าใจระหว่างจีนกับอารยธรรมอื่นทั่วโลก รวมถึงช่วยกระตุ้นให้ชาวจีนกว่า 1.3 พันล้านคนสนใจเล่นกีฬาฤดูหนาว และเปิดโอกาสให้ทุกคนได้ช่วยกันสนับสนุนกระบวนการโอลิมปิกและส่งเสริมจิตวิญญาณของโอลิมปิก"

ประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ได้ตรวจงานเตรียมความพร้อมจัดการแข่งขันโอลิมปิกและพาราลิมปิกฤดูหนาว 2022 ที่กรุงปักกิ่งและเมืองจางเจียโข่วในมณฑลเหอเป่ยทางภาคเหนือของจีนหลายต่อหลายครั้ง พร้อมกับตอกย้ำความสำคัญของการจัดโอลิมปิกที่เปี่ยมด้วย "ความอัศจรรย์ ความพิเศษ และความเป็นเลิศ" ด้วยแนวทางที่ "เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ครอบคลุม เปิดกว้าง และใสสะอาด"

จีนกำลังทำตามสัญญาในการเป็นเจ้าภาพโอลิมปิก ตั้งแต่การสร้างแรงบันดาลใจให้คนรักกีฬาฤดูหนาวทุกเพศทุกวัย ไปจนถึงการจัดการแข่งขันอย่างยั่งยืนและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม

การพัฒนาที่ยั่งยืน

เมื่อปีที่แล้ว คณะกรรมการจัดการแข่งขันโอลิมปิกฤดูหนาวปักกิ่ง 2022 ได้ประกาศแผนการความยั่งยืนตามวิสัยทัศน์ของประธานาธิบดีสี จิ้นผิง โดยให้ความสำคัญกับความยั่งยืนในสามส่วน ได้แก่ การสร้างผลกระทบเชิงบวกต่อสิ่งแวดล้อม การพัฒนารูปแบบใหม่ในภูมิภาค และการยกระดับคุณภาพชีวิตของประชาชน

โอลิมปิกฤดูหนาวปักกิ่ง 2022 จะเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์โอลิมปิกที่มีการใช้เทคโนโลยี Carbon Dioxide Trans-Critical Direct Cooling ในการทำน้ำแข็ง ซึ่งลดการใช้พลังงานได้กว่า 40% เมื่อเทียบกับวิธีเดิม

นี่เป็นเพียงหนึ่งใน 119 มาตรการ ภายใต้ 12 แผนปฏิบัติการตามที่ระบุในแผนการความยั่งยืน

ในระหว่างการตรวจความคืบหน้า นายสี จิ้นผิง กล่าวว่า โอลิมปิกฤดูหนาว 2022 จะเป็นกลไกขับเคลื่อนการพัฒนาร่วมกันของปักกิ่ง เทียนจิน และเหอเป่ย

ความเคลื่อนไหวของจีนสอดคล้องกับแผนการ Olympic Agenda 2020 ของ IOC ซึ่งตั้งเป้าผลักดันให้การจัดโอลิมปิกสอดคล้องกับแผนการพัฒนาระยะยาวของแต่ละเมืองและภูมิภาค

อำเภอฉงหลี่ ในเมืองจางเจียโข่ว เคยเป็นอำเภอที่ยากจนมากเพราะมีรายได้จากการเกษตรอย่างจำกัด ในปี 2015 ประชากร 16.8% จากกว่า 100,000 คนในอำเภอ อยู่ต่ำกว่าเส้นแบ่งความยากจนของจีน

แต่แล้วดินแดนภูเขาแห่งนี้ก็ถูกพลิกโฉมให้กลายเป็นสวรรค์ของนักเล่นสกี และจะเป็นสถานที่จัดการแข่งขันกีฬาโอลิมปิกฤดูหนาว 2022 เกือบทุกรายการ นอกจากนี้ ในปี 2019 หนังสือพิมพ์นิวยอร์กไทม์สได้ยกให้อำเภอฉงหลี่เป็นหนึ่งใน 52 จุดหมายปลายทางเล่นสกีที่ห้ามพลาด

ในเดือนพฤษภาคม 2019 อำเภอฉงหลี่หลุดพ้นจากความยากจนอย่างเป็นทางการ ประชากรเกือบ 30,000 คน จากทั้งหมด 126,000 คนในอำเภอได้ทำงานในสกีรีสอร์ตหรือบริษัทและองค์กรที่เกี่ยวข้อง

"โอลิมปิกช่วยเร่งให้เกิดการพัฒนาในระยะยาว เช่นเดียวกับที่เกิดขึ้นในโอลิมปิกปักกิ่ง 2022 และเราได้เรียนรู้อะไรมากมายจากสิ่งนี้" นายคริสตอฟ ดูบี ผู้อำนวยการบริหาร IOC กล่าว

สร้างมหาอำนาจด้านกีฬา

นายสี จิ้นผิง กล่าวว่า "กีฬาเป็นวิธีการสำคัญในการส่งเสริมสุขภาพของประชาชน ตอบสนองความปรารถนาของประชาชนที่ต้องการมีชีวิตที่ดีขึ้น และสนับสนุนการพัฒนามนุษย์รอบด้าน" ด้วยเหตุนี้ ประธานาธิบดีจีนจึงมีความกระตือรือร้นที่จะเปลี่ยนประเทศจีนให้กลายเป็นมหาอำนาจด้านกีฬา

ก่อนหน้านี้ นายสี จิ้นผิง ได้กระตุ้นให้ประเทศเตรียมความพร้อมในการเป็นเจ้าภาพโอลิมปิกฤดูหนาว เพราะเป็นโอกาสดีในการส่งเสริมและพัฒนากีฬาหิมะและน้ำแข็ง บัดนี้ วิสัยทัศน์ดังกล่าวกำลังกลายเป็นความจริง

กีฬาฤดูหนาวในจีนเคยถูกมองว่าเป็นงานอดิเรกสำหรับชาวต่างชาติและมีราคาแพง แต่ประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ตั้งเป้าส่งเสริมให้ชาวจีน 300 ล้านคนเล่นกีฬาฤดูหนาวภายในปี 2025 ด้วยเหตุนี้ ชาวจีนจึงหันมาสนใจเล่นสเกตน้ำแข็งและสกีกันมากขึ้น

เมื่อ 5 ปีที่แล้ว จีนมีสกีรีสอร์ตเพียง 460 แห่ง เพื่อทำให้คนทั่วไปเข้าถึงสกีได้ง่ายขึ้น จีนจึงก่อสร้างสกีรีสอร์ตจนมีจำนวนเพิ่มขึ้นเป็น 770 แห่ง ณ สิ้นปี 2019

นอกจากนี้ โรงเรียนระดับประถมศึกษาและมัธยมศึกษาราว 2,000 แห่งทั่วประเทศยังบรรจุกีฬาฤดูหนาวในหลักสูตรของโรงเรียน ณ สิ้นปี 2020

มาตรการส่งเสริมกีฬาฤดูหนาวในวงกว้างสะท้อนถึงคำพูดของประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ที่กล่าวไว้ว่า "รากฐานของการสร้างมหาอำนาจด้านกีฬาคือการทำให้กีฬามีความแพร่หลาย"

"ประธานาธิบดีสี จิ้นผิง คือแชมป์ตัวจริง และผมอยากมอบเหรียญให้เขา เพราะเขามีวิสัยทัศน์ที่ชัดเจนเกี่ยวกับบทบาทความสำคัญของกีฬาที่มีต่อสังคม รวมถึงความสำคัญของกีฬาที่มีต่อการศึกษาของเด็กและเยาวชน" นายโทมัส บาค ประธาน IOC กล่าว

https://news.cgtn.com/news/2021-10-26/Winter-Dream-meets-Chinese-Dream-China-delivers-on-Olympic-promises-14FEKl6xHJS/index.html