พิธีมอบรางวัลองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นที่มีการบริหารจัดการที่ดี ประจำปีงบประมาณ 2564

นายธีรภัทร ประยูรสิทธิ ปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า สำนักงานคณะกรรมการการกระจายอำนาจให้แก่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น หน่วยงานในสังกัดสำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี เห็นความสำคัญถึงการสนับสนุนและการส่งเสริมภารกิจการดำเนินงานขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น หน่วยงานสำคัญในระดับพื้นที่ซึ่งขับเคลื่อนการดำเนินงานภาครัฐลงไปสู่ระดับชุมชน และในฐานะที่ทำงานใกล้ชิดพี่น้องประชาชนมากที่สุด จึงจัดพิธีมอบรางวัลองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นที่มีการบริหารจัดการที่ดี เป็นประจำทุกปี สำหรับ “พิธีมอบรางวัลองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นที่มีการบริหารจัดการที่ดี ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2564” มี นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี เป็นประธาน

ในพิธีมอบรางวัล มีกำหนดจัดขึ้นในวันที่ 6 ตุลาคม 2564 ในรูปแบบสื่ออิเล็กทรอนิกส์ ทางคณะอนุกรรมการเพื่อคัดเลือกองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ซึ่งประกอบด้วย ผู้ทรงคุณวุฒิ นักวิชาการ สถาบันการศึกษา และผู้แทนส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง ได้คัดเลือกโดยมีเกณฑ์ชี้วัดคือ คัดเลือกองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นมีการบริหารจัดการสาธารณะที่ดี ส่งเสริมการมีส่วนร่วมของประชาชน การใช้นวัตกรรมใหม่ และเป็นองค์กรที่ตอบสนองความต้องการของประชาชนได้อย่างทั่วถึงและมีประสิทธิภาพ โดยในรอบการคัดเลือกรอบแรก มีองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นให้ความสนใจเข้าร่วม

การคัดเลือกมากถึง 617 แห่ง และผ่านการประเมินเข้ารอบสุดท้ายรวมทั้งสิ้น 276 แห่ง แบ่งเป็นองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นที่ได้รับรางวัลที่ 1 รางวัลที่ 2 รางวัลที่ 3 และรางวัลชมเชย ในประเภทรางวัลต่าง ๆ รวมทั้งสิ้น 57 แห่ง ซึ่งรายละเอียดการมอบรางวัล มีดังนี้

1. เงินรางวัลส่วนที่ 1 ประเภทดีเลิศ จำนวน 3 รางวัล แบ่งประเภทรางวัลออกเป็น องกร์การบริหารส่วนจังหวัด

เทศบาลนคร เทศบาลเมือง เทศบาลตำบล และองค์การบริหารส่วนตำบล

1.1 รางวัลที่ 1 องค์การบริหารส่วนตำบลรางจระเข้ อ.เสนา จ.พระนครศรีอยุธยา

1.2 รางวัลที่ 2 เทศบาลเมืองทุ่งสง อ.ทุ่งสง จ.นครศรีธรรมราช

1.3 รางวัลที่ 3 เทศบาลเมืองกาฬสินธุ์ อ.เมืองกาฬสินธุ์ จ.กาฬสินธุ์

2. เงินรางวัลส่วนที่ 2 จำนวน 54 รางวัล แบ่งประเภทรางวัลออกเป็น เงินรางวัลองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นขนาดใหญ่ ประเภทโดดเด่น (องค์การบริหารส่วนจังหวัด เทศบาลนครและเทศบาลเมือง) จำนวน 5 รางวัล เทศบาลตำบล ประเภทโดดเด่น จำนวน 5 รางวัล องค์การบริหารส่วนตำบล ประเภทโดดเด่น จำนวน 5 รางวัล องค์การบริหารส่วนจังหวัด ประเภททั่วไป จำนวน 3 รางวัล เทศบาลขนาดใหญ่ ประเภททั่วไป (เทศบาลนครและเทศบาลเมือง) จำนวน 5 รางวัล เทศบาลตำบล ประเภททั่วไป จำนวน 13 รางวัล และองค์การบริหารส่วนตำบล ประเภททั่วไป จำนวน 18 รางวัล ยกตัวอย่างเช่น

2.1 องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นขนาดใหญ่ ประเภทโดดเด่น จำนวน 5 รางวัล ได้แก่ รางวัลที่ 1 องค์การบริหารส่วนจังหวัดเชียงใหม่ อ.เมืองเชียงใหม่ จ.เชียงใหม่ รางวัลที่ 2 เทศบาลเมืองแม่เหียะ อ.เมืองเชียงใหม่ จ.เชียงใหม่ รางวัลที่ 3 องค์การบริหารส่วนจังหวัดสตูล อ.เมืองสตูล จ.สตูล และรางวัลชมเชย 2 รางวัลคือ องค์การบริหารส่วนจังหวัดสงขลา อ.เมืองสงขลา จ.สงขลา และองค์การบริหารส่วนจังหวัดเชียงราย อ.เมืองเชียงราย จ.เชียงราย

2.2 เทศบาลตำบล ประเภทโดดเด่น จำนวน 5 รางวัล ได้แก่ รางวัลที่ 1 เทศบาลตำบลป่าไผ่ อ.ลี้ จ.ลำพูน รางวัลที่ 2 เทศบาลตำบลบ้านดอน อ.อู่ทอง จ.สุพรรณบุรี รางวัลที่ 3 เทศบาลตำบลเกาะเพชร อ.หัวไทร จ.นครศรีธรรมราช รางวัลชมเชย จำนวน 2 รางวัลคือ เทศบาลตำบลแม่สะเรียง อ.แม่สะเรียง จ.แม่ฮ่องสอน และเทศบาลตำบลก้อ อ.ลี้ จ.ลำพูน

3. เงินรางวัลส่วนที่ 3 จำนวน 219 รางวัล แบ่งประเภทรางวัลออกเป็น เงินรางวัลผ่านเกณฑ์ สำหรับองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นที่เข้าสู่รอบการประเมินในรอบสุดท้าย ประเภทดีเลิศ ประเภทโดดเด่นและประเภททั่วไป รวม 72 รางวัล และเงินรางวัลองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นที่มีผลคะแนนผ่านเกณฑ์การประเมินในรอบการประเมินของสถาบันการศึกษา ประเภทโดดเด่นและประเภททั่วไป รวม 147 รางวัล

ปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวด้วยว่า “องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นที่ได้รับการคัดเลือกเข้ารับรางวัลในวันนี้ ผ่านการตรวจสอบความโปร่งใสจากสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ (ป.ป.ท.) และกรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่นจึงถือว่าองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นที่ได้รับรางวัล เป็นหน่วยงานที่มีการบริหารจัดการที่ดี มีธรรมาภิบาล โปร่งใสและตรวจสอบได้ เป็นไปตามหลักการบริการกิจการบ้านเมืองที่ดี อย่างไรก็ตาม การจัดกิจกรรมในครั้งนี้ มีองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นให้ความสนใจสมัครเข้าคัดเลือกมากถึง ๖๑๗ แห่ง ขอขอบคุณทุกหน่วยงานและทุกคนที่ให้ความร่วมมือ ท่ามกลางการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) ได้เห็นข้าราชการและพนักงานในองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นกระตือรือร้นในการทำงานเพื่อพี่น้องประชาชน ถือเป็นเรื่องที่น่ายินดีอย่างยิ่ง จึงหวังเป็นอย่างยิ่งว่าพวกเราทุกคนจะร่วมมือกันขับเคลื่อนการทำงานในระดับท้องถิ่นต่อไป เพื่อต่อยอดการพัฒนา ไปสู่การแข่งขันระดับสากล”