“HOMA” ตอกย้ำแนวคิด “ความยั่งยืน” ชูมาตรฐานใหม่และวิถีชีวิตที่ดีกว่าแห่งการอยู่อาศัยในไทย
ผู้บุกเบิกโครงการอะพาร์ตเมนต์แนวคิด Co-Living แต่งตั้ง “เจ้าหน้าที่ด้านความยั่งยืน” เพื่อร่วมขับเคลื่อนความมุ่งมั่นด้านสิ่งแวดล้อมและความรับผิดชอบต่อสังคมของโครงการ HOMA Phuket Town ที่จะเปิดให้บริการในเดือนตุลาคมนี้
“โฮม่า ภูเก็ต ทาวน์?” (HOMA Phuket Town) โครงการอะพาร์ตเมนต์ขนาด 505 ยูนิต ผู้บุกเบิกนวัตกรรมการดำรงชีวิตที่ยั่งยืน
ภูเก็ต ประเทศไทย – “โฮม่า ภูเก็ต ทาวน์” (HOMA Phuket Town) โครงการอะพาร์ตเมนต์แนวคิด “การอยู่อาศัยร่วมกัน” หรือ “Co-Living” เผยแนวทางปฏิบัติด้านผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมและสังคมขั้นสูง (Advanced environmental and social impact practices) สู่การกำหนดมาตรฐานใหม่เพื่อความยั่งยืนในประเทศไทย และวิถีชีวิตแห่งการอยู่อาศัยที่ดียิ่งกว่า (Live A Better Life)
“โฮม่า ภูเก็ต ทาวน์” อะพาร์ตเมนต์ราคาคุ้มค่าแห่งใหม่ที่สร้างสรรค์ขึ้นด้วยความมิตรกับสิ่งแวดล้อม ซึ่งเป็นการร่วมทุนระหว่าง บริษัท เอเชีย แคปปิตอล เรียล เอสเตท (Asia Capital Real Estate: ACRE) และ บริษัท นูน แคปปิตอล (NOON Capital) ตั้งอยู่ใจกลางย่านประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมของเกาะภูเก็ต ให้บริการห้องสำหรับเช่าที่มีสไตล์จำนวน 505 ยูนิต พร้อมสรรพด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกและบริการเทียบเท่าโรงแรมสากล ยกระดับไลฟ์สไตล์และการอยู่อาศัยรูปแบบใหม่ให้กับผู้เช่า ด้วยบรรยากาศที่บริสุทธิ์ ใกล้ชิดสิ่งแวดล้อมมากขึ้น และสร้างแรงบันดาลใจในการใช้ชีวิตที่ดีในทุก ๆ วัน
การพัฒนานวัตกรรมการอยู่อาศัยที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมของ “โฮม่า ภูเก็ต ทาวน์” มุ่งเน้นไปที่การลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์และการประหยัดพลังงาน โดยใช้พลังงานแสงอาทิตย์จากแผงโซลาร์เซลล์ที่ติดตั้งบนชั้นดาดฟ้า ช่วยสร้างพลังงานหมุนเวียนให้กับทุกพื้นที่ของโครงการฯ นอกจากนี้ ยังได้ติดตั้งอุปกรณ์ประหยัดพลังงาน ใช้ไฟ LED ซึ่งมีประสิทธิภาพมากกว่าแสงแบบเดิมประมาณ 70% รวมถึงระบบปรับอากาศขั้นสูงที่ใช้พลังงานน้อยกว่าระบบทั่วไปมาก
แนวทางปฏิบัติเหล่านี้จะช่วยให้ “โฮม่า ภูเก็ต ทาวน์” ลดปริมาณการปล่อยก๊าซเรือนกระจก (GHG) ประมาณ 325 ตันต่อปี หรือคิดเป็นการปลูกต้นไม้ใหม่เกือบ 5,400 ต้นในระยะเวลา 10 ปี หรือลดปริมาณรถยนต์บนท้องถนนลง 70 คันต่อปี
(ภาพซ้าย): “โฮม่า ภูเก็ต ทาวน์?” มอบบรรยากาศความร่มรื่นและภูมิทัศน์เขียวขจีที่หาได้ยากสำหรับการใช้ชีวิตในปัจจุบัน
(ภาพขวา) คอนเนอร์ แบรนด์นัม (Conor Brannum) เจ้าหน้าที่ด้านความยั่งยืนคนใหม่แห่ง HOMA
ผู้เช่าของ “โฮม่า ภูเก็ต ทาวน์” ยังสามารถดื่มด่ำกับอากาศที่บริสุทธิ์อย่างแท้จริง เนื่องจากภายในโครงการฯ มีการตรวจสอบคุณภาพอากาศขั้นสูงอย่างสม่ำเสมอ และเลือกใช้เฟอร์นิเจอร์ทันสมัยที่ทำจากไม้รีไซเคิล 100% รวมถึงการใช้กระจก "Low E" (การแผ่รังสี) ที่ออกแบบมาเพื่อลดแสงอัลตราไวโอเลตและควบคุมอุณหภูมิภายในของแต่ละยูนิต นอกจากนี้ “โฮม่า ภูเก็ต ทาวน์” ยังใช้น้ำรีไซเคิลในการทดน้ำในสวน และอนุรักษ์ต้นไม้ใหญ่ภายในพื้นที่ไว้ในระหว่างการก่อสร้าง เพื่อให้สร้างร่มเงาตามธรรมชาติ และส่งเสริมความหลากหลายทางชีวภาพภายในโครงการฯ
เป้าหมายของแนวทางปฏิบัติด้านความยั่งยืนที่ดีที่สุดสำหรับ “โฮม่า ภูเก็ต ทาวน์” และโครงการใหม่ทั้งหมดในพอร์ตโฟลิโอของ “โฮม่า” คือการบรรลุมาตรฐานสากลสําหรับอาคารสีเขียวของ มาตรฐานความเป็นเลิศในการออกแบบอาคารเพื่อประสิทธิภาพ หรือ Excellence in Design for Greater Efficiencies (EDGE Advanced) ซึ่งอยู่ภายใต้การดูแลของ บรรษัทเงินทุนระหว่างประเทศ หรือ International Finance Corporation (IFC) และได้รับการรับรองความเป็นผู้นำด้านการออกแบบที่อนุรักษ์พลังงานและสิ่งแวดล้อม หรือ Leadership in Energy and Environmental Design (LEED) สุดยอดรางวัลที่จัดอันดับอาคารสีเขียวที่ใช้กันอย่างแพร่หลายมากที่สุดในโลก โดย U.S. Green Building Council (USGBC)
“โฮม่า ภูเก็ต ทาวน์” ได้แต่งตั้ง คอนเนอร์ แบรนด์นัม (Conor Brannum) เป็น เจ้าหน้าที่ด้านความยั่งยืน ที่มีความหลงใหลสิ่งแวดล้อม เขาสำเร็จการศึกษาจากมหาวิทยาลัยแห่งรัฐแอริโซนา (Arizona State University) และเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านโซลูชันเชิงนิเวศในภาคอสังหาริมทรัพย์เชิงพาณิชย์ โดยเคยสร้างผลงานการบรรลุขั้นตอน 5 โมดูลของ EDGE Technical Online Workshop อันเข้มงวด และได้รับการรับรองโดย USGBC มาแล้ว ก่อนจะนำความเชี่ยวชาญเหล่านั้นและแอปพลิเคชันซอฟต์แวร์ที่ได้พัฒนาขึ้นมาใช้ขับเคลื่อนความพยายามด้านสิ่งแวดล้อมของ “โฮม่า” ให้เป็นโครงการที่อยู่อาศัยสีเขียวอย่างแท้จริง
ลูก้า ดอตติ (Luca Dotti) ผู้ก่อตั้งและกรรมการผู้จัดการ โฮม่า กล่าวว่า “ที่ “โฮม่า” เรามุ่งมั่นอย่างมากที่จะลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม ด้วยการออกแบบและพัฒนาอาคารที่ใช้พลังงานและทรัพยากรอย่างมีประสิทธิภาพ เรากำลังดำเนินการอย่างเคร่งครัดเพื่อรักษาโลกและรับรองคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นสำหรับผู้อยู่อาศัยของเรา นอกจากนี้ การประหยัดที่เราทำได้ในระยะยาวจะส่งผลดีต่อมูลค่าของอาคาร อัตราค่าเช่าที่สูงขึ้น ในขณะที่ค่าสาธารณูปโภคลดลง”
(ภาพซ้าย) พื้นที่ Co-working ที่มีโต๊ะไม้ในฟาร์ม แสงไฟที่ใช้พลังงานต่ำ และจิตรกรรมฝาผนังของศิลปินท้องถิ่น
(ภาพกลาง) ไม้และวัสดุทอแบบดั้งเดิมที่ใช้ในห้อง
(ภาพขวา) มีจุดบริการเติมน้ำฟรีตลอด
เพื่อให้แน่ใจว่าแนวทางปฏิบัติและการปฏิบัติตามความยั่งยืนที่ดีที่สุดไปในทิศทางและระดับเดียวกัน ACRE จึงได้ร่วมมือกับ “AECOM” บริษัทที่ปรึกษาด้านโครงสร้างพื้นฐานชั้นนำ เพื่อพัฒนากลยุทธ์ผลกระทบต่ำต่าง ๆ ที่ใช้ในการออกแบบและการก่อสร้างอาคาร ซึ่งจะช่วยลดผลกระทบอากาศร้อนของเกาะภูเก็ต และทำให้ภายในและรอบ ๆ โครงการ “โฮม่า ภูเก็ต ทาวน์” มีอากาศเย็นขึ้น
โครงการ “โฮม่า ภูเก็ต ทาวน์” มีกำหนดเปิดให้บริการในเดือนตุลาคม 2564 นี้ นำเสนอห้องพักหลายสไตล์ ประกอบด้วย ห้องสตูดิโอร่วมสมัย, ห้องดูเพล็กซ์, 1 ห้องนอน, 2 ห้องนอน และ 3 ห้องนอน ทั้งหมดได้รับการออกแบบและตกแต่งให้ตอบโจทย์ผู้อยู่อาศัยคนรุ่นใหม่ ตั้งอยู่ท่ามกลางภูมิประเทศที่เขียวขจี พร้อมสรรพสิ่งอำนวยความสะดวกสไตล์โรงแรม ได้แก่ สระว่ายน้ำอินฟินิตี้, ฟิตเนส, พื้นที่เล่นโยคะ, คิดส์คลับ, คาเฟ่, ร้านอาหาร, และโคเวิร์กกิ้งสเปซ พร้อมทีมงานบริการระดับมืออาชีพ อาทิ HOMA Host, บริการซักรีด, บริการทำความสะอาด, และแผนกต้อนรับตลอด 24 ชั่วโมง
ในอนาคต “โฮม่า” จะเปิดตัวโครงการแนวคิด Co-Living ลำดับที่สองในจังหวัดภูเก็ต ได้แก่ “โฮม่า เชิงทะเล” และอีกหนึ่งโครงการในจังหวัดชลบุรี คือ “โฮม่า ศรีราชา” ทั้งนี้ ในอีก 5 ปีข้างหน้า ACRE วางแผนลงทุนกว่า 250 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เพื่อพัฒนาโครงการ แบรนด์ “โฮม่า” อีก 6 แห่งทั่วประเทศไทย ซึ่งทั้งหมดจะได้รับการออกแบบ พัฒนา และดำเนินการด้วยความรับผิดชอบต่อสังคม