กระทรวงพลังงานและทรัพยากรธรรมชาติ (KeTSA) มาเลเซีย แสดงความยินดีกับ 17 องค์กรที่คว้ารางวัลประเภทต่างๆ จาก ASEAN Energy Awards (AEA) ประจำปี 2564 ซึ่งเป็นรางวัลสูงสุดที่มอบให้กับบริษัทและรัฐวิสาหกิจในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ที่สร้างผลงานด้านการพัฒนาประสิทธิภาพการใช้พลังงานและพลังงานหมุนเวียนในประเทศสมาชิกอาเซียน

องค์กรสัญชาติมาเลเซียที่คว้ารางวัล AEA ปี 2564 ได้แก่ Jimah East Power Sdn. Bhd ในสาขาการใช้ CCT สำหรับการผลิตพลังงาน (ขนาดใหญ่), มหาวิทยาลัย Universiti Teknikal Malaysia ในสาขาการจัดการพลังงานในอาคารและอุตสาหกรรม และรางวัล Industries Awards (อาคารขนาดใหญ่) ในสาขาระบบการจัดการพลังงานอย่างยั่งยืนในมหาวิทยาลัยรัฐ, โรงพยาบาล Hospital Yan ในสาขาการจัดการพลังงานในอาคาร และรางวัล Industries Awards (อาคารขนาดกลางและเล็ก) ในสาขาระบบการจัดการพลังงาน, Ramatex Textiles Industrial Sdn. Bhd. สำหรับโครงการเปลี่ยนเชื้อเพลิงจากเชื้อเพลิงฟอสซิลสู่พลังงานหมุนเวียนชีวมวล ในสาขาระบบออฟกริด (พลังงานความร้อน) และอื่นๆ อีกมากมาย

ยิ่งไปกว่านั้น มาเลเซียยังคว้ารางวัลชนะเลิศในสาขาเชื้อเพลิงชีวภาพและสาขาพิเศษสำหรับโครงการจัดการของเสียจากปาล์มแบบครบวงจร (IPWMF), โรงงานผลิตชีวมวลและโรงไฟฟ้าพลังงานแก๊สชีวภาพพร้อมแผงพลังงานแสงอาทิตย์บนดาดฟ้าเฟสที่ 1, โรงงานผลิตเชื้อเพลิงแข็งจากชีวมวลต้นปาล์มโดย Reviva Sdn. Bhd และเทคโนโลยีการจัดการขยะอาหารแบบไม่ใช้ออกซิเจน (FWATT) รุ่น AD E-50 โดย Alam Flora Environmental Solutions Sdn. Bhd

นอกจากถ้วยและโล่รางวัล ผู้ชนะยังได้รับการยกย่องในอีเวนต์ครั้งสำคัญอย่างงานมอบรางวัลออนไลน์ ซึ่งมีรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงานของประเทศสมาชิกอาเซียนเข้าร่วม

งานมอบรางวัลดังกล่าวที่บรูไนเป็นเจ้าภาพจัดขึ้นเมื่อวันที่ 15 ก.ย.ที่ผ่านมา มีการถ่ายทอดสดผ่านช่องทางสื่อโซเชียลของ ASEAN Centre for Energy โดยมีตัวแทนจากทั้ง 10 ประเทศสมาชิกอาเซียนเข้าร่วม และคณะกรรมการผู้ตัดสินคัดเลือกผู้ชนะจากผลงานระหว่างช่วงที่มีการแข่งขัน

Yang Berhormat Datuk Seri Takiyuddin Hassan รัฐมนตรีกระทรวงพลังงานและทรัพยากรธรรมชาติมาเลเซียกล่าวว่า "ผมขอแสดงความยินดีกับองค์กรสัญชาติมาเลเซียทั้ง 17 รายที่ได้รับรางวัล AEA ในปีนี้ ความสำเร็จของพวกเขาสะท้อนถึงความเป็นผู้นำของมาเลเซียในการส่งเสริมแนวทางด้านความยั่งยืนที่จะพลิกโฉมอตุสาหกรรมพลังงานของเรา"

ส่งเสริมความพยายามของทั้งประเทศ

การประกาศรายชื่อผู้ชนะรางวัล AEA ประจำปี 2564 มีความสำคัญในการสร้างกลไกเพื่อเอื้อให้องค์กรต่างๆ สามารถพัฒนา วัดผล และนำเสนอโครงการริเริ่มและแนวทางปฏิบัติด้านการพัฒนาพลังงานได้อย่างต่อเนื่อง รวมถึงผู้ที่ทำงานในโครงการด้านพัฒนาประสิทธิภาพการใช้พลังงานและพลังงานหมุนเวียน ซึ่งช่วยส่งเสริมความยั่งยืนด้านพลังงาน

"ผมหวังว่าผลงานความสำเร็จเหล่านี้จะสร้างแรงบันดาลใจให้องค์กรมาเลเซียหันมาใช้แนวทางที่ยั่งยืนในปฏิบัติการด้านต่างๆ ซึ่งเป็นการผลักดันที่สำคัญในการช่วยให้มาเลเซียบรรลุเป้าหมายลดการปล่อยคาร์บอนได้" เขากล่าวเสริม

ผลงานรางวัลเหล่านี้แสดงให้เห็นการมีส่วนร่วมในเชิงรุกของรัฐบาลมาเลเซียในการพัฒนาประสิทธิภาพการใช้พลังงานและพลังงานหมุนเวียน ทั้งยังเป็นการชมเชยการดำเนินการอย่างแข็งขันของบริษัทต่างๆ เพื่อรับประกันประสิทธิภาพการใช้พลังงานและความยั่งยืนในพื้นที่ และผลักดันให้มาเลเซียก้าวหน้าและเติบโตสู่อนาคตที่ยั่งยืนยิ่งขึ้น

ทั้งนี้ มีตัวแทน 26 รายที่เข้าชิงรางวัล AEA ประจำปี 2564 ที่ได้รับรางวัล National Energy Awards (NEA) ประจำปี 2564 ก่อนหน้านี้ โดยมีถึง 12 รายที่คว้ารางวัลระดับอาเซียนมาครองได้

เพื่อจัดตั้งโครงการด้านสิ่งแวดล้อมอย่างต่อเนื่อง KeTSA จึงเชิญชวนให้ทั้งภาครัฐและเอกชนเข้าร่วมประกวดชิงรางวัล NEA ประจำปี 2565 ซึ่งเปิดรับสมัครอยู่ในขณะนี้

สามารถเข้าร่วมการแข่งขันชิงรางวัล NEA ได้ โดยติดต่อสำนักเลขาธิการ NEA ได้ที่ nea@greentechmalaysia.my

เกี่ยวกับ National Energy Awards (NEA)

NEA เป็นการมอบรางวัลประจำปี เพื่อให้การยอมรับความสำเร็จที่โดดเด่นและแนวปฏิบัติที่ดีที่สุดในการขับเคลื่อนวาระพลังงานที่ยั่งยืนของประเทศ รางวัลดังกล่าวเปิดตัวในปี 2561 โดยเป็นส่วนหนึ่งในโครงการริเริ่มของกระทรวงพลังงานและทรัพยากรธรรมชาติ (KeTSA) เพื่อส่งเสริมประสิทธิภาพการใช้พลังงานและพลังงานหมุนเวียนในมาเลเซีย

รับชมข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ www.nationalenergyawards.com.my และติดตาม NEA ทาง เฟซบุ๊ก และ อินสตาแกรม