โดย รอนดา เวอเทเร่ ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายข้อมูลเฮอร์บาไลฟ์ นิวทริชั่น
ในสภาวะที่ทั่วโลกต้องเผชิญหน้ากับการแพร่ระบาดอย่างหนัก หลายองค์กรต้องปรับตัวให้เข้ากับสถานการณ์อย่างเร่งด่วน สิ่งหนึ่งที่สำคัญและมีความปลอดภัยสูงได้ถูกนำมาปรับใช้กับการดำเนินธุรกิจนั่นคือ เทคโนโลยี ผู้ประกอบการจึงจำเป็นที่ต้องมีเครื่องมือด้านเทคโนโลยี (Technology Toolkit) ที่สร้างสรรค์เเละเเก้ปัญหาได้อย่างมีประสิทธิภาพมากกว่าในอดีตที่ใช้เพียงการสื่อสารผ่านอีเมล์หรือข้อความ
ในฐานะผู้เชี่ยวชาญด้านเทคโนโลยีที่ให้คำเเนะนำแก่ผู้ประกอบการมากกว่า 3.4 ล้านรายทั่วโลก ในการใช้เทคโนโลยีจัดการธุรกิจเเละการบริการลูกค้าอย่างมีประสิทธิภาพ เฮอร์บาไลฟ์ นิวทริชั่นขอเเนะนำ 7 เครื่องมือดิจิทัลที่ช่วยผลักดันธุรกิจของคุณเดินหน้าได้อย่างมีประสิทธิภาพท่ามกลางสภาวะวิกฤติ
1.การบริการลูกค้า (Customer Service) เรากำลังอยู่ในยุคของการเปลี่ยนแปลงของเทคโนโลยีครั้งสำคัญ ผู้คนรับ-ส่งข้อความต่อเนื่องไม่รู้จบ อีกทั้งเวลาดูเหมือนถูกเร่งให้เร็วขึ้น ดังนั้นการตอบสนองต่อความต้องการของลูกค้าอย่างทันท่วงทีจึงเป็นสิ่งสำคัญ จากการวิจัยล่าสุดพบว่า 82% ของผู้บริโภคคาดหวังการตอบสนองอย่างรวดเร็วจากแบรนด์ต่างๆ ดังนั้นการก้าวนำเทรนด์ของลูกค้าผ่านเครื่องมือดิจิทัลที่ล้ำสมัยจะช่วยให้คุณได้เปรียบคู่แข่ง เครื่องมือไลฟ์แชต (Live Chat) ถูกนำมาใช้ตอบคำถามพื้นฐานกับลูกค้าผ่านทางเว็บไซต์ เเละยังมีอีกหลากหลายเครื่องมือที่ใช้งานบนโซเชียลมีเดีย มีทั้งเเบบมีค่าใช้จ่ายเเละใช้งานฟรี รวมถึงซอฟต์แวร์ Zoho Desk ที่กำลังเป็นที่นิยมในขณะนี้
2.การสื่อสารและการประสานความร่วมมือ (Communication and Collaboration) แอปพลิเคชันสำหรับการประชุมทางไกลผ่านจอภาพ (Video Conference) หรือวีดิโอแชตเกิดขึ้นมากมาย ในช่วงสถานการณ์การแพร่ระบาด ในเดือนมีนาคมที่ผ่านมา มียอดดาวน์โหลดมากกว่า 62 ล้านครั้ง โดยผู้ประกอบการใช้เพื่อติดต่อพูดคุยกับพันธมิตร คู่ค้า และลูกค้า นอกจากจะใช้ในการประชุมแล้ว ยังใช้ในการสร้างและรักษาความสัมพันธ์ในกลุ่มธุรกิจ หรือกลุ่มเครือข่ายทางธุรกิจได้อีกด้วย โดยผู้ประกอบการสามารถแยกเป็นห้องประชุมย่อยออนไลน์สำหรับการประชุมกลุ่มย่อยได้ นอกจากนี้ยังสามารถจัดทำ Webinar ขึ้นมาเพื่อพูดคุยกับพันธมิตรหรือคู่ค้า พร้อมทำการบันทึกกิจกรรมแล้วนำไปสร้างเป็นคอนเทนต์บนโซเชียลมีเดีย เว็บไซต์ หรืออีเมล์ เพื่อช่วยผลักดันสร้างยอดขายเพิ่มเติมได้อีกทางหนึ่ง ตัวอย่างเเอปพลิเคชั่นการประชุมออนไลน์เเบบไม่มี ค่าใช้จ่ายอย่าง JOIN.ME สามารถเข้าร่วมประชุมได้สูงสุด 10 คน
3.การใช้โซเชียลมีเดีย (Social Media) โซเชียลมีเดียไม่ได้ใช้เพียงแค่แชร์วีดีโอ รูปภาพ หรือเพื่อความบันเทิงเท่านั้น แต่เป็นเครื่องมือดิจิทัลที่สำคัญสำหรับธุรกิจเป็นลำดับต้นๆ เนื่องจากลูกค้าส่วนใหญ่อยู่ในโลกโซเชียลมีเดีย ทั้ง Facebook Twitter Linkedin YouTube และ Instagram ดังนั้นสิ่งที่คุณต้องทำคือการสร้างเนื้อหาที่น่าสนใจและตรงกับกลุ่มเป้าหมาย โดยอาจเป็นเรื่องราวของผลิตภัณฑ์ ข่าวสารต่างๆ หรือข้อมูลสินค้า แต่การใช้ช่องทางโซเชียลมีเดียหลายอย่างพร้อมกันและส่งไปหากลุ่มลูกค้าทุกอาทิตย์อาจสร้างผลเสียได้เช่นกัน ซึ่งปัจจุบันมีเครื่องมือของโซเชียลมีเดียที่ช่วยจัดการปัญหาเหล่านี้ ช่วยกำหนดวันและเวลาในการโพสต์เนื้อหาได้อัตโนมัติ โดยเครื่องมือที่เเนะนำ อาทิ Hootsuite ที่ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพและลดเวลาในการบริหารคอนเทนต์บนโซเชียลมีเดีย โดยเฉพาะธุรกิจที่มีหลายๆช่องทางในการติดต่อ ซึ่งซอฟต์แวร์ Zoho Social หรือซอฟต์แวร์ Buffer ก็ทำได้เช่นกัน
4.การใช้โปรแกรมสนทนา Slack ผู้ประกอบการในหลายองค์กรเลือกใช้โปรแกรมสนทนา Slack ในการสื่อสารกับลูกค้ามากขึ้น เพราะใช้งานง่าย เป็นเสมือนสื่อกลางในการทำงาน โดยใช้แทนอีเมล แชต และอื่นๆ เพื่ออำนวยความสะดวกในการอัพเดตข้อมูล ข่าวสาร คำแนะนำที่เกี่ยวข้อง รวมถึงเนื้อหาต่างๆ เกี่ยวกับผลิตภัณฑ์ใหม่ เพื่อการเข้าถึงระหว่างลูกค้าและแบรนด์มากยิ่งขึ้น
5.การจัดเก็บข้อมูล (Storage) การประมวลผลระบบคลาวด์ เป็นที่นิยมอย่างแพร่หลาย เสมือนเป็นตู้เก็บของขนาดใหญ่ที่สามารถจัดเก็บข้อมูลสำคัญได้อย่างปลอดภัย ปกป้องข้อมูลสำรอง เเละสามารถเเชร์ข้อมูลได้อย่างง่ายดายผ่านช่องทางต่างๆ เช่น Google Drive, Dropbox หรือ Microsoft Sharepoint การย้ายข้อมูลในการทำงานไปยังระบบคลาวด์ ไม่เพียงแต่จะช่วยให้ผู้ใช้งานทำงานได้ทุกที่ทุกเวลาแล้ว ยังง่ายต่อการแชร์ข้อมูลให้กับลูกค้าอีกด้วย
6.การตลาดผ่านช่องทางการส่งอีเมล (Email Marketing) หนึ่งในเครื่องมือทางการตลาดที่มีประสิทธิภาพ คือ การทำการตลาดผ่านอีเมลล์ การส่งจดหมายข่าวที่ถูกออกแบบสวยงามเหมาะสมเพื่อให้ข้อมูลลูกค้าอย่างสม่ำเสมอ จะช่วยรักษาความสัมพันธ์กับลูกค้าได้ หนึ่งในแพลตฟอร์มที่ได้รับความนิยมทั่วโลกและไม่มีค่าใช้จ่าย คือ MailChimp ที่สามารถส่งอีเมล์ข้อความทางการตลาดให้กับลูกค้าอย่างน้อย 12,000 ข้อความต่อเดือน หรือมีผู้ติดตามอย่างน้อย 2,000 บัญชี จึงถือว่าเป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่น่าสนใจสำหรับผู้ประกอบการในเวลานี้
7.การตลาดแบบอีคอมเมิร์ซ (E-Commerce) วิกฤตครั้งนี้ได้เปลี่ยนพฤติกรรมการซื้อสินค้าของผู้บริโภค โดยหันไปเลือกซื้อสินค้าอุปโภคบริโภค ไปจนถึงเฟอร์นิเจอร์แต่งบ้านผ่านแพลตฟอร์มร้านค้าออนไลน์ต่างๆ ซึ่งลูกค้าคาดหวังที่จะได้รับบริการที่ง่าย สะดวกและรวดเร็ว ซึ่งในปัจจุบันมีแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซให้เลือกใช้มากมาย อาทิ Shopify ที่ให้บริการแก่ผู้ประกอบการสำหรับการสร้างหน้าร้านออนไลน์อย่างครบวงจร มีทั้งเทมเพลตหลายรูปแบบสามารถปรับแต่งให้เข้ากับธุรกิจได้ตามต้องการ สามารถส่งข้อความถึงลูกค้าได้โดยตรง อีกทั้งยังติดตามสถานะการสั่งสินค้า และส่งใบแจ้งหนี้ได้อย่างง่ายดาย รวมถึงนำไปใช้งานบนแพลตฟอร์มชื่อดังอย่าง Amazon ได้อีกด้วย ซึ่ง Shopify เปิดให้ทดลองใช้งานได้ฟรีถึง 14 วัน
สุดท้ายนี้ ขอเเนะนำว่า การมีปฏิสัมพันธ์ การติดต่อสื่อสารระหว่างผู้ประกอบการและลูกค้าเป็นสิ่งสำคัญในการดำเนินธุรกิจ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของการโทรศัพท์หาลูกค้า การรับสายจากลูกค้า การประชุมผ่าน zoom การส่งอีเมล์หาลูกค้าและเพื่อนร่วมงาน เทคโนโลยีช่วยให้ธุรกิจขนาดเล็กทำงานได้เหมือนองค์กรใหญ่ แต่ความท้าทายคือการทำให้เทคโนโลยีเชื่อมต่อสื่อสารระหว่างมนุษย์ได้อย่างครบทุกมิติ ถึงเเม้ว่าเทคโนโลยีเหล่านี้จะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในด้านการสื่อสารและผลผลิต แต่ก็ไม่สามารถแทนที่ในเรื่องปฎิสัมพันธ์ระหว่างบุคคลได้ ดังนั้นการผสมผสานเครื่องมือเหล่านี้เข้าด้วยกันจึงเป็นสิ่งที่จำเป็นอย่างยิ่งสำหรับธุรกิจในยุคนี้
สำหรับผู้ที่สนใจผลิตภัณฑ์เฮอร์บาไลฟ์ นิวทริชั่น สามารถติดตามข้อมูล พร้อมพบกับเคล็ดลับเพื่อสุขภาพที่ดีได้ที่ www.facebook.com/HerbalifeThailandOfficial และ www.instagram.com/HerbalifeThailandOfficial