มหาวิทยาลัยชั้นนำในจีนจะมีบทบาทสำคัญมากขึ้นในการพัฒนาประเทศตลอด 5 ปีข้างหน้าและในอนาคต ในขณะที่ประเทศเศรษฐกิจใหญ่อันดับสองของโลกประกาศว่าจะก้าวขึ้นเป็นผู้ทรงอิทธิพลด้านนวัตกรรม

มหาวิทยาลัยชิงหัว หนึ่งในสถาบันอุดมศึกษาอันทรงเกียรติของจีน มีบทบาทสำคัญอย่างยิ่งในการพัฒนาประเทศ

ในการเยี่ยมชมมหาวิทยาลัยชิงหัวเมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา ประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ได้สนับสนุนให้มีการพัฒนามหาวิทยาลัยจีนที่มีศักยภาพในระดับโลก เพื่อรองรับการฟื้นฟูประเทศ

การมาเยือนของผู้นำจีนเกิดขึ้นไม่กี่วันก่อนวาระครบรอบ 110 ปีของทางมหาวิทยาลัย ในโอกาสนี้ ประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ผู้ดำรงตำแหน่งเลขาธิการคณะกรรมการกลางพรรคคอมมิวนิสต์จีน ได้แสดงความยินดีกับคณาจารย์ นักศึกษา และศิษย์เก่าของมหาวิทยาลัย ในนามของคณะกรรมการกลางพรรคคอมมิวนิสต์จีน

จีนต้องการองค์ความรู้ทางวิทยาศาสตร์ "มากกว่าที่เคย"

นายสี จิ้นผิง ได้เยี่ยมชมสถาบันศิลปะและการออกแบบ ห้องปฏิบัติการด้านภาพและปัญญาประดิษฐ์ นิทรรศการความสำเร็จด้านการศึกษาและการวิจัยทางวิทยาศาสตร์ของทางมหาวิทยาลัย และโรงพละ

เขาได้เรียนรู้เกี่ยวกับการปฏิรูปมหาวิทยาลัย การพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ การพัฒนานวัตกรรมการศึกษาและการวิจัยทางวิทยาศาสตร์ รวมถึงบทบาทของทางมหาวิทยาลัยในการพัฒนาประเทศ ก่อนที่จะพบปะกับตัวแทนคณาจารย์และนักศึกษาในโรงพละ และกล่าวสุนทรพจน์

นายสี จิ้นผิง กล่าวว่า ปีนี้เป็นวาระครบรอบ 100 ปีของการก่อตั้งพรรคคอมมิวนิสต์จีน นอกจากนั้นยังเป็นปีแห่งการเริ่มต้นสร้างชาติสังคมนิยมที่ทันสมัย "การพัฒนาประเทศและรัฐบาลจีนต้องอาศัยการศึกษาขั้นสูง องค์ความรู้ทางวิทยาศาสตร์ และคนเก่งมากกว่าที่เคย" เขาเน้นย้ำ

นอกจากนี้ เขายังกระตุ้นให้คนจีนรุ่นใหม่ช่วยกันแบกรับความรับผิดชอบทางประวัติศาสตร์และมุ่งมั่นฟื้นฟูประเทศชาติ

ร่างแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติระยะ 5 ปี ฉบับที่ 14 (พ.ศ. 2564-2568) และวัตถุประสงค์ระยะยาวถึงปี 2578 ระบุว่า จีนจะใช้นวัตกรรมในการขับเคลื่อนการพัฒนา ตลอดจนคิดค้นเทคโนโลยีหลักและเทคโนโลยีสำคัญใหม่ ๆ

ร่างแผนพัฒนาฯ ระบุว่า "นวัตกรรมคือหัวใจของการพัฒนาประเทศให้ทันสมัย" พร้อมกับสนับสนุนให้ประเทศยกระดับการพึ่งพาตนเองในด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี

นอกจากนี้ ร่างแผนพัฒนาฯ ยังสนับสนุนการพัฒนามหาวิทยาลัยที่มุ่งเน้นด้านการวิจัยให้มีคุณภาพสูงขึ้น รวมถึงบ่มเพาะคนเก่งในด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีให้มากขึ้น

นายสี จิ้นผิง ส่งเสริมให้มหาวิทยาลัยชิงหัวปรับปรุงสาขาวิชาและความชำนาญเฉพาะทาง รวมถึงบ่มเพาะคนเก่งในภาคส่วนสำคัญของสาขาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี นอกจากนั้นยังเรียกร้องให้พยายามก้าวข้ามอุปสรรคในการพัฒนาเทคโนโลยีหลักและเทคโนโลยีสำคัญ

สี จิ้นผิง กับมหาวิทยาลัยชิงหัว

มหาวิทยาลัยชิงหัวก่อตั้งขึ้นในปี 2454 ในกรุงปักกิ่ง ในช่วงไม่กี่เดือนสุดท้ายของยุคราชวงศ์ชิง (พ.ศ. 2187-2455)

หลังการสถาปนาสาธารณรัฐประชาชนจีนในปี 2492 ทางมหาวิทยาลัยได้กลายเป็นสถาบันโพลีเทคนิคที่มุ่งเน้นสาขาวิชาวิศวกรรมศาสตร์ และนับตั้งแต่มีการประกาศนโยบายปฏิรูปและเปิดประเทศในปี 2521 ทางมหาวิทยาลัยก็ค่อย ๆ พัฒนาจนกลายเป็นมหาวิทยาลัยที่มุ่งเน้นด้านการวิจัยครบวงจร ประกอบด้วยวิทยาลัย 21 แห่ง และคณะต่าง ๆ 59 คณะ

ประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ศึกษาสาขาวิชาเคมีอินทรีย์สังเคราะห์พื้นฐาน คณะวิศวกรรมเคมี มหาวิทยาลัยชิงหัว ในช่วงปี 2518-2522 ขณะที่มีอายุ 20 กว่าปี

ในช่วงที่เขาดำรงตำแหน่งเจ้าหน้าที่ระดับสูงในมณฑลฝูเจี้ยนทางภาคตะวันออกเฉียงใต้ของจีน เขาได้เข้าร่วมโครงการศึกษาระหว่างทำงาน โดยศึกษาเกี่ยวกับทฤษฎีมาร์กซิสต์ อุดมการณ์ และการเมือง ณ วิทยาลัยมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์ มหาวิทยาลัยชิงหัว ระหว่างปี 2541-2545 และจบหลักสูตรนิติศาสตรดุษฎีบัณฑิต

ประธานาธิบดีสี จิ้นผิง เยี่ยมชมมหาวิทยาลัยชิงหัวเป็นครั้งที่สองแล้วในเวลาเพียงหนึ่งปีกว่า ๆ โดยครั้งก่อนเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 2 มีนาคม 2563 ซึ่งเขาได้เดินทางมายังวิทยาลัยแพทยศาสตร์ เพื่อชมความก้าวหน้าในการวิจัยทางวิทศาสตร์เกี่ยวกับโรคโควิด-19

https://news.cgtn.com/news/2021-04-19/Chinese-President-Xi-Jinping-inspects-Tsinghua-University-ZAlAUAd2zC/index.html