ยางรถตักที่ออกแบบได้ตามความต้องการของ Techking ได้รับการยอมรับเป็นอย่างดีจาก Rio Tinto และ XCMG หลังเริ่มใช้งานในออสเตรเลีย
เมื่อเดือนม.ค.ที่ผ่านมา รถตัก XC958 ซึ่งเป็นรถตักรุ่นไฮเอนด์จาก XCMG และได้รับการเสริมสมรรถนะด้วยยางรุ่น 23.5R25 ETD2S ที่ออกแบบมาโดยเฉพาะของ Techking นั้น ได้ส่งไปถึงไซต์งานในเมืองคาร์ราทาในรัฐออสเตรเลียตะวันตกแล้ว เพื่อทำหน้าที่ขนส่งแร่จากเหมืองไปยังเรือบรรทุกสินค้าให้บริษัท Rio Tinto ที่ได้ซื้อรถตักไป ดังนั้นเพื่อรวบรวมความคิดเห็นของผู้ใช้เกี่ยวกับยางรถตักของ Techking รุ่นที่ออกแบบมาโดยเฉพาะนี้ คุณ Steve Coles บุคลากรด้านธุรกิจของ Techking สาขาออสเตรเลียจึงได้ไปเยี่ยมเยียน Rio Tinto ณ ไซต์งานจริงเมื่อไม่นานมานี้
ยางรถตักรุ่นนี้ออกแบบมาโดยเฉพาะสำหรับรถตักรุ่นไฮเอนด์ในซีรี่ส์ XC9 ของ XCMG เพื่อใช้ในการขนส่งแร่จากเหมือง จากการนำสูตรวัสดุที่เป็นกรรมสิทธิ์ของ Techking และดอกยางรูปตัว V มาใช้ในการผลิต ทำให้ยางรถตักที่ออกแบบมาโดยเฉพาะรุ่นนี้สามารถเสริมสมรรถนะการทำงานของเครื่องจักรได้อย่างมากด้วยคุณสมบัติทนทานต่อการฉีกขาดและโครงสร้างแก้มยางอันแข็งแกร่ง ซึ่งจะทำให้ใช้งานได้ทนทานยิ่งขึ้นในสภาพการทำงานที่ต้องสมบุกสมบันเป็นพิเศษ โดยคุณ Allen Zhuo วิศวกรของ XCMG ผู้ทำงานในพื้นที่ได้เปิดเผยกับคุณ Steve ว่า "การดำเนินงานของ Rio Tinto ได้มีการใช้ยางของ Techking และรถตักของ XCMG และในขณะนี้ก็ถือว่าใช้งานได้ดี"
หลังจากได้จัดส่งยางรถที่ออกแบบมาโดยเฉพาะสำหรับรถตักของ XCMG เป็นที่เรียบร้อยแล้ว ก็นับได้ว่าเป็นอีกครั้งที่ Techking ให้บริการผลิตยางโดยออกแบบตามความต้องการของลูกค้าซึ่งเป็นถึงสองบริษัทยักษ์ใหญ่ระดับโลก เพิ่มเติมจากการให้บริการโซลูชันยางรถสำหรับรถบดโดยเฉพาะ ถือเป็นอีกหนึ่งก้าวที่สำคัญของ Techking ในการเส้นทางสู่การเป็นผู้นำระดับโลกด้านการให้บริการจัดหาโซลูชันยางรถของเครื่องจักรในอุตสาหกรรมเหมืองแร่
ระหว่างที่คุณ Steve เข้าเยี่ยมไซต์งานของ Rio Tinto นั้น ก็ได้รับรายงานเกี่ยวกับยางรถรุ่น 27.00R49 SUPER ROCK ซึ่งมีผลลัพธ์อันน่าพอใจ โดยยางรถรุ่นนี้ออกแบบมาสำหรับรถบรรทุกเทท้าย Komatsu 785 ที่มีการใช้งานที่เหมืองทองแดงของ Rio Tinto ในมองโกเลีย โดยข้อมูลในรายงานของทีมวิศวกรของ Techking ผู้ทำงานในพื้นที่ระบุว่า "จากข้อมูลที่ได้มีการติดตามในเดือนมี.ค.นี้ ยางรถรุ่น 27.00R49 SUPER ROCK มีอายุการใช้งานเฉลี่ยที่ 4,201 ชั่วโมงเมื่อนับถึงปัจจุบัน และจากการประเมินพบว่า อาจใช้งานได้เกินความคาดหวังของ Rio Tinto ด้วยอายุการใช้งานโดยรวมที่สูงถึง 10,406 ชั่วโมง"