วันที่ 4 มีนาคม 2564 นายแพทย์ปฐม สวรรค์ปัญญาเลิศ อธิบดีกรมวิทยาศาสตร์บริการ (วศ.) พร้อมด้วยคณะผู้บริหาร เข้าร่วมงานแถลงข่าวการประกาศกฎกระทรวง อว. ตามราชกิจจานุเบกษา ลงวันที่ 2 มีนาคม 2564 เพื่อความเป็นหนึ่งเดียวภายใต้โครงสร้างใหม่ของ อว. โดยมี 5 หน่วยงานในสังกัดที่มีการปรับเปลี่ยนอำนาจหน้าที่ตามโครงสร้างใหม่ ประกอบด้วย 1) สำนักงานรัฐมนตรี (สร.สป.) ดูแล สนับสนุนภารกิจของรัฐมนตรีและประสาน นโยบายฯ 2) สำนักงานปลัดกระทรวงฯ (สป.อว.) เป็นหน่วยงานกลางการบริหารราชการประจำของกระทรวงฯ 3) กรมวิทยาศาสตร์บริการ (วศ.)เป็นหน่วยให้บริการ กำกับ ดูแล ส่งเสริมวิจัยและพัฒนาทางวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีฯ 4) สํานักงานปรมาณูเพื่อสันติ (ปส.) เป็นหน่วยเสนอแนะนโยบาย แนวทางและแผนยุทธศาสตร์ด้านพลังงานนิวเคลียร์ในทางสันติฯ และ 5) สำนักงานการวิจัยแห่งชาติ (วช.) เป็นหน่วยหลักในการสนับสนุนทุนวิจัยและนวัตกรรม ขับเคลื่อนโครงการวิจัยและนวัตกรรมและพัฒนาบุคลากรด้านการวิจัยและนวัตกรรมอย่างมีมาตรฐานและจริยธรรมการวิจัยฯ โดยมี ศ.(พิเศษ) ดร.เอนก เหล่าธรรมทัศน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (รมว.อว.) เป็นประธาน ณ ห้องแถลงข่าวชั้น 1 อาคารพระจอมเกล้า กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม ถนนโยธี                 ทั้งนี้ นพ.ปฐม สวรรค์ปัญญาเลิศ อธิบดีกรมวิทยาศาสตร์บริการ เปิดเผยถึงบทบาทและอำนาจหน้าที่ของ วศ.ภายใต้กฎกระทรวงใหม่ ซึ่งกำหนดให้ วศ. เป็นหน่วยงานที่มีภารกิจการให้บริการทางวิทยาศาสตร์ หรือเป็นห้องปฏิบัติการกลางทางวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีของประเทศ โดยมีอำนาจหน้าที่สำคัญๆ ในการพัฒนาคุณภาพห้องปฏิบัติการ โดยการส่งเสริมสนับสนุนและดำเนินการรับรองระบบงานห้องปฏิบัติการวิทยาศาสตร์ด้านเคมี ด้านฟิสิกส์ และด้านวิทยาศาสตร์ชีวภาพตามมาตรฐานสากลเพื่อเพิ่มศักยภาพและขีดความสามารถห้องปฏิบัติการวิทยาศาสตร์ให้เป็นที่ยอมรับของนานาประเทศ การพัฒนาศักยภาพบุคลากรห้องปฏิบัติการ โดยการบริหารจัดการการศึกษาและฝึกอบรมทางวิชาการและเทคนิคปฏิบัติการวิทยาศาสตร์ บทบาทในการพัฒนาหอสมุดและศูนย์สารสนเทศวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี การใช้เทคโนโลยีสารสนเทศเพื่อเป็นแหล่งกลางของข้อมูลทางวิชาการและข้อมูลสารสนเทศวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีของประเทศ การวิจัยและพัฒนาเทคโนโลยีชุมชนในสาขาที่สำคัญและตามความจำเป็น รวมทั้งการถ่ายทอดไปสู่การใช้ประโยชน์เพื่อพัฒนาเศรษฐกิจและสังคม ตลอดจนเป็นสถานปฏิบัติกลางทางวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีของประเทศ โดยให้บริการวิเคราะห์ทดสอบวัตถุดิบและผลิตภัณฑ์ด้านเคมี เคมีฟิสิกส์ ฟิสิกส์ ฟิสิกส์เชิงกล วิศวกรรมและวิทยาศาสตร์ชีวภาพ และวิเคราะห์ทดสอบมลพิษในสิ่งแวดล้อมทางด้านเคมีเชิงฟิสิกส์ ฟิสิกส์ ฟิสิกส์เชิงกล และวิศวกรรม รวมทั้งสอบเทียบความถูกต้องเที่ยงตรงของเครื่องมือ และอุปกรณ์วัดแก่หน่วยงานทั้งของภาครัฐและภาคเอกชน ตลอดจนประชาชนทั่วไป และปฏิบัติการอื่นใดตามที่กฎหมายกำหนด           ?      อธิบดีกรมวิทยาศาสตร์บริการ กล่าวเพิ่มเติมว่า ก้าวต่อไปของ วศ. กำหนดไว้ในปี 2565 คือ การปรับเปลี่ยนโครงสร้างองค์กรจากระบบราชการไปเป็นองค์การมหาชน ซึ่งเป็นการยกระดับบาทบาทภารกิจในการขับเคลื่อนภารกิจบริการทางวิทยาศาสตร์ให้เป็นรูปธรรมและมีมาตรฐานเป็นที่ยอมรับทั้งในประเทศและระดับสากลเพื่อตอบสนองคุณภาพด้านบริการที่ตอบโจทย์การพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมของประเทศให้เป็นรูปธรรม ดังนั้น จึงเป็นก้าวแห่งความท้าทายที่สำคัญยิ่งที่ วศ. ต้องเร่งผลักดันผลงานตามความเชี่ยวชาญให้เป็นที่ประจักษ์และเป็นที่ยอมรับในวงกว้างมากให้มากยิ่งขึ้น โดยเฉพาะบทบาทในการคาดการณ์ความต้องการบริการด้านวิทยาศาสตร์ของประเทศ (Anticipate need for Science services) ตลอดจนการสร้างเครือข่ายความร่วมมือกับหน่วยงานทั้งภายในและภายนอก อว. เพื่อเฟ้นหาความต้องการของภาคส่วนต่างๆ ทั้งภาคอุตสาหกรรม การพาณิชย์ หน่วยวิจัยและนวัตกรรม เช่น Science park ตามภูมิภาคต่างๆ ซึ่งถ้าเราเตรียมความพร้อมตามแนวทางดังกล่าวจะทำให้ วศ. มีศักยภาพและความพร้อมรองรับการขับเคลื่อนการบริการทางวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ได้อย่างมีประสิทธิภาพได้รวดเร็วยิ่งขึ้น