เอ.เจ. พลาสท์ จับมือ BASF ประเทศเยอรมนี พัฒนานวัตกรรมฟิล์มพีซีอาร์ บีโอพีเอ แก้ปัญหาขยะพลาสติก ลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก 1.3 ตัน CO2e ต่อการใช้เม็ดพลาสติก 1 ตัน

          บริษัท เอ.เจ. พลาสท์ จำกัด (มหาชน) ผู้นำด้านธุรกิจเกี่ยวกับการผลิตและจำหน่ายแผ่นฟิล์มพลาสติก ร่วมมือกับ บริษัท BASF ประเทศเยอรมนี พัฒนานวัตกรรมฟิล์มพีซีอาร์ บีโอพีเอ ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม จากขยะพลาสติกใช้แล้วที่ย่อยสลายยากรายแรกของเอเชีย สามารถลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกได้ถึง 1.3 ตัน CO2e ต่อการใช้เม็ดพลาสติก 1 ตัน

          นายกิตติภัต สุทธิสัมพัทน์ รองประธานกรรมการและกรรมการผู้จัดการ บริษัท เอ.เจ. พลาสท์ จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า เมื่อต้นปีนี้ บริษัท เอ.เจ. พลาสท์ จำกัด (มหาชน) ได้ร่วมกับบริษัท BASF ประเทศเยอรมนี บริษัทผู้ผลิตสารเคมีที่ใหญ่เป็นอันดับ 2 ของโลก พัฒนานวัตกรรมฟิล์มพีซีอาร์ บีโอพีเอ (PCR BOPA Film) มีคุณสมบัติเหมือนกับพลาสติกแบบดั้งเดิมที่ผลิตจากแหล่งฟอสซิล ที่มีความสะอาดและปลอดภัย ช่วยแก้ปัญหาขยะพลาสติก การคัดแยกขยะ และขยะพลาสติกที่นำมารีไซเคิลได้ยาก เป็นการช่วยลดการใช้ทรัพยากร สามารถช่วยลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก ได้ประมาณ 1.3 ตัน CO2e ต่อการใช้เม็ดพลาสติก 1 ตัน

การร่วมมือกันครั้งนี้ เพื่อร่วมกันพัฒนานวัตกรรมฟิล์มพลาสติกบีโอพีเอ ที่ผลิตจากเม็ดพลาสติก ChemCyclingTM polyamide ซึ่งมาจากการนำขยะพลาสติกผสมที่ใช้แล้ว เช่น ถุงพลาสติก ซองพลาสติก ยางรถยนต์ ซึ่งรวมถึงพลาสติกผสมที่มีส่วนประกอบของพลาสติกหลายชนิด ที่นำไปรีไซเคิลได้ยาก นำมารีไซเคิลแบบ Post-Consumer Recycled (PCR) โดยผ่านกระบวนการทางเคมี แล้วผลิตเป็นเม็ดพลาสติกโพลีเอไมด์ ได้ใหม่ เรียกว่าฟิล์มพีซีอาร์ บีโอพีเอ (PCR BOPA Film) เพื่อนำมาใช้ในบรรจุภัณฑ์สำหรับอาหารพร้อมทาน (Retort) อาหารแช่แข็ง น้ำมันพืช น้ำยาปรับผ้านุ่ม และคาดหวังว่าจะสามารถนำมาใช้ในบรรจุภัณฑ์ชนิดอื่นๆ เพิ่มมากขึ้นต่อไปในอนาคต

ที่ผ่านมา บริษัทฯ ได้เคยร่วมกับบริษัท BASF ประเทศเยอรมนี พัฒนาฟิล์มพลาสติกบีโอพีเอ ที่ผลิตจากเม็ดพลาสติก Ultramid® polyamide ซึ่งมาจากการนำน้ำมันพืชที่ใช้แล้ว เช่น น้ำมันทอดไก่ รวบรวมจากร้านอาหารฟาสต์ฟู้ดต่างๆ แล้วนำมาผ่านกระบวนการทางปิโตรเคมี ผลิตเป็นเม็ดพลาสติก
โพลีเอไมด์ ได้ใหม่  เรียกว่าฟิล์มไบโอพีเอ (BioPA Film) ได้เป็นเจ้าแรกของโลก สามารถลดปริมาณการปล่อยก๊าซเรือนกระจกได้ถึง 4.4 ตัน CO2e ต่อการใช้พลาสติก 1 ตัน เทียบเท่าการขับรถ 16,000 กิโลเมตร

ทั้งนี้ บริษัทฯ ยังคงมุ่งมั่นแสวงหาแนวทางและวิธีการเพื่อลดการใช้ทรัพยากรธรรมชาติ ลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์สู่สิ่งแวดล้อม สอดคล้องกับบริบทโลกปัจจุบันที่ให้ความสำคัญกับการลดปริมาณ
ก๊าซเรือนกระจกและช่วยลดภาวะโลกร้อน โดยให้ความสำคัญกับเทคโนโลยีและนวัตกรรมใหม่ๆ เพื่อสนับสนุนความยั่งยืนและเศรษฐกิจหมุนเวียนของโลก

อนึ่ง บริษัท เอ.เจ. พลาสท์ จำกัด (มหาชน) ประกอบธุรกิจเกี่ยวกับการผลิตและจำหน่ายแผ่นฟิล์มภายในประเทศและส่งออกต่างประเทศของ BOPP Film (บีโอพีพี), BOPET Film (บีโอพีอีที), BOPA Film (บีโอพีเอ) (Nylon ไนลอน), Metallized Film และ CPP Film ด้วยคุณภาพและมาตราฐานระดับสากล โดยในปัจจุบันนี้บริษัทมีกำลังการผลิต BOPP Film 132,000 ตันต่อปี BOPET Film 62,000 ตันต่อปี BOPA Film 30,000 ตันต่อปี Metallized Film 23,500 ตันต่อปีและ CPP Film 16,000 ตันต่อปี ผลิตภัณฑ์ของบริษัทเป็นบรรจุภัณฑ์ชนิดอ่อนกึ่งสำเร็จรูป ซึ่งลูกค้าจะนำผลิตภัณฑ์ของบริษัทฯ ไปใช้ในการแปรรูปเป็นบรรจุภัณฑ์ เพื่อใช้บรรจุสินค้าอุปโภคและบริโภค เช่น ซองบรรจุอาหารและขนมขบเคี้ยว ซองบรรจุเสื้อผ้า ซองบรรจุดอกไม้ กระดาษห่อของขวัญ เคลือบกระดาษ เคลือบผิวไม้ ฉนวนป้องกันความร้อนภายในอาคาร ฉนวนไฟฟ้า และอาหารแช่แข็ง เป็นต้น โดยบริษัทฯ ได้ให้ความสำคัญอย่างยิ่งต่อการผลิตสินค้าให้มีคุณภาพสูง และมีความหลากหลายของผลิตภัณฑ์ ตามทิศทางความต้องการของตลาดในปัจจุบันที่ต้องการผู้ผลิตที่มีความมั่นคง และพัฒนาอย่างต่อเนื่อง บริษัทฯ จึงได้พัฒนาระบบบริหารการจัดการตามมาตราฐาน ISO 9001:2015 และมาตราฐานสุขอนามัย GMP และเลือกใช้เครื่องจักรเทคโนโลยีสูงสุด นายกิตติภัต กล่าวเพิ่มเติม