คณะรัฐมนตรีเห็นชอบร่างกฎกระทรวง 2 ฉบับ ตามที่กระทรวงแรงงานเสนอ และให้ดำเนินการต่อไปได้ เพื่อให้เกิดความปลอดภัยในการทำงานของลูกจ้างในสถานที่ทำงานเกี่ยวกับงานก่อสร้าง คาดว่าจะมีผลบังคับใช้ภายในเดือนกุมภาพันธ์ 2564 หลังประกาศในราชกิจจานุเบกษาแล้ว

          นายอภิญญา สุจริตตานันท์ อธิบดีกรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน (กสร.) เปิดเผยว่า นายสุชาติ  ชมกลิ่น รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน ให้ความสำคัญกับความปลอดภัยในการทำงานของลูกจ้าง โดยเฉพาะพื้นที่ก่อสร้างที่เป็นพื้นที่มีความเสี่ยงอยู่ตลอดเวลา และมีอันตรายสูงกว่าพื้นที่ที่เป็นโรงงานทั่วไป ทำให้ต้องมีการบริหารจัดการความปลอดภัยในการก่อสร้าง เพื่อป้องกันและลดความเสี่ยงอันตรายที่อาจเกิดขึ้น โดยให้กรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงานได้ศึกษารายละเอียด และกำหนดมาตรฐานในการบริหาร จัดการ เพื่อให้นายจ้างได้ดำเนินการด้านความปลอดภัยอาชีวอนามัย และสภาพแวดล้อมในการทำงานเกี่ยวกับงานก่อสร้าง และให้ดำเนินการยกร่างกฎกระทรวงขึ้นนำเสนอต่อคณะรัฐมนตรีเพื่อให้ความเห็นชอบ และบังคับใช้เป็นกฎหมาย ซึ่งคณะรัฐมนตรีได้มีมติเห็นชอบแล้ว 2 ฉบับ ได้แก่ ร่างกฎกระทรวงกำหนดมาตรฐานในการบริหาร จัดการ และดำเนินการด้านความปลอดภัย อาชีวอนามัย และสภาพแวดล้อมในการทำงานเกี่ยวกับนั่งร้านและค้ำยัน และเกี่ยวกับงานก่อสร้าง

          อธิบดี กสร. อธิบายเพิ่มเติมว่า สาระสำคัญที่น่าสนใจของร่างกฎกระทรวงเกี่ยวกับนั่งร้านและค้ำยัน อาทิ การกำหนดให้นายจ้างจัดและดูแลให้ลูกจ้างสวมใส่อุปกรณ์ความปลอดภัยส่วนบุคคลที่เหมาะสมกับงานนั่งร้านและค้ำยัน รวมถึงจัดให้มีนั่งร้านที่มีความมั่นคงแข็งแรง โดยให้มีการคำนวณออกแบบและควบคุมโดยวิศวกร และในกรณีที่ใช้ค้ำยันรองรับการเทคอนกรีต อุปกรณ์ เครื่องจักรหรือรองรับสิ่งอื่นใด นายจ้างต้องควบคุมดูแลมิให้บุคคลซึ่งไม่เกี่ยวข้องเข้าไปอยู่ในหรือใต้บริเวณนั้น เป็นต้น สำหรับร่างกฎกระทรวงเกี่ยวกับงานก่อสร้าง มีสาระสำคัญ อาทิ ในงานเจาะและงานขุด การเจาะหรือขุดรู หลุม บ่อ คู หรือสิ่งอื่นที่มีลักษณะเดียวกัน นายจ้างต้องจัดให้มีมาตรการป้องกันมิให้ลูกจ้างหรือบุคคลอื่นได้รับอันตรายจากการเจาะหรือขุดดังกล่าว ในกรณีที่ใช้ปั้นจั่นหรือเครื่องจักรหนักปฏิบัติงานต้องจัดให้มีการป้องกันดินพังทลาย และนายจ้างต้องมิให้ลูกจ้างลงไปทำงานในรู หลุม บ่อ คู หรือสิ่งอื่นที่มีลักษณะเดียวกันที่มีขนาดกว้างน้อยกว่า 75 เซนติเมตร และมีความลึกตั้งแต่ 2 เมตรขึ้นไป และต้องดำเนินการให้พื้นที่ก่อสร้างมีความมั่นคงแข็งแรง จัดให้มีแสงสว่างฉุกเฉินในเขตก่อสร้าง ติดหรือตั้งป้ายสัญลักษณ์เตือนอันตรายและเครื่องหมายบังคับเกี่ยวกับความปลอดภัยที่เหมาะสมกับลักษณะงาน การกำหนดบริเวณเขตก่อสร้างและเขตอันตรายในเขตก่อสร้าง รวมถึงการกำหนดให้นายจ้างต้องจัดให้มีมาตรการป้องกันมิให้ลูกจ้างหรือบุคคลอื่นได้รับอันตรายจากการเจาะ หรือขุดรู หลุม บ่อ คู รวมถึงความปลอดภัยในการทำงานในอุโมงค์ ในน้ำ เป็นต้น ทั้งนี้ กรมจะเร่งดำเนินการตามขั้นตอนต่อไป เพื่อประกาศในราชกิจจานุเบกษา ซึ่งคาดว่าจะมีผลบังคับใช้เป็นกฎหมายได้ภายในเดือนกุมภาพันธ์ 2564 นี้