เบเธสดา, แมริแลนด์ 22 กันยายน 2564 - แมริออท อินเตอร์เนชั่นแนล อิงก์ (Nasdaq: MAR) (Marriot) ประกาศวันนี้เรื่องการยื่นจดหมายไปยังกลุ่มผู้ริเริ่ม Science Based Targets โดยให้คำมั่นสัญญาว่า

  • ตั้งเป้าลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ในทุกมิติ สอดคล้องกับสภาพภูมิอากาศที่ร้อนขึ้น 1.5 องสาเซลเซียส
  • ตั้งเป้าหมายพื้นฐานทางวิทยาศาสตร์ในระยะยาว สู่การเป็นองค์กรที่ปล่อยก๊าซเรือนกระจกเป็นศูนย์ภายในปี พ.ศ. 2593 (ค.ศ. 2050) สอดคล้องกับการกำหนดคุณสมบัติและคำแนะนำจากกลุ่มผู้ริเริ่ม Science Based Targets

ในส่วนของการลงมือปฎิบัติในการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ ด้วยการสนับสนุนจากหลายองค์กร เช่น Global Citizen แมริออทภูมิใจที่จะประกาศถึงการลงนามอย่างเป็นทางการของ Race to Zero ผ่านมาตรฐานที่ดีทีสุด นั่นคือ Business Ambition 1.5 และหวังที่จะฉลองความสำเร็จในวันที่ 25 กันยายนนี้ ผ่านการถ่ายทอดสดทาง Global Citizen Live. Race to Zero คือการรวมตัวของบริษัท เมือง ภูมิภาค สถาบันการศึกษา และสถาบันการเงินต่างๆ เพื่อรณรงค์สู่การบรรลุเป้าหมายการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ ภายในปี 2050 โดยผู้เข้าร่วมโครงการต้องให้คำมั่นสัญญาเดียวกันเพื่อมุ่งสู่เป้าหมายเดียวกันนี้คือ ลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกในทุกมิติ อย่างรวดเร็วและเป็นธรรม ตามข้อตกลงปารีส และมีแผนปฏิบัติการที่โปร่งใสและมีเป้าหมายที่ชัดเจน

“เรามุ่งมั่นที่จะสร้างความรู้สึกทางบวกและยั่งยืน ไม่ว่าเราจะทำธุรกิจที่ไหน และคำสัญญาในเรื่องสภาพอากาศ เพื่อบรรลุเป้าหมายการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ในครั้งนี้ คือก้าวที่จำเป็นอย่างยิ่งของเราในความรับผิดชอบต่อชุมชนและสิ่งแวดล้อม ในที่ที่เราอาศัยอยู่ ทำงาน และไปเยี่ยมเยียนให้ยังคงอยู่ในสภาพที่ดีและมีชีวิตชีวา” แอนโธนี คาปุอาโน กรรมการบริหาร แมริออท อินเตอร์เนขั่นแนล กล่าว  “แม้ว่าเราจะผ่านพ้นช่วงเวลาที่ยากลำบากที่สุดของอุตสาหกรรมมาได้ เรารู้ว่าความมุ่งมั่นครั้งนี้จะเป็นความท้าทาย เราภูมิใจที่ได้ร่วมกับบริษัทและสถาบันต่างๆ รอบโลก ในการพยายามรับมือกับสภาพอากาศที่เปลี่ยนแปลง เพื่อสร้างโลกใหม่ที่ยั่งยืนกว่า”

โรงแรมในเครือแมริออท อินเตอร์เนชั่นแนล ต่างดำเนินการเพื่อลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ ในฐานะที่เป็นส่วนหนึ่งของเป้าหมายองค์กรในด้านความยั่งยืนในปี 2025 และการให้คำมั่นในปฏิบัติการเกี่ยวกับสภาพอากาศเพื่อก้าวต่อไปในการเดินทางสู่ความยั่งยืนของบริษัท ซึ่งการจะบรรลุเป้าหมายเหล่านี้ได้จำเป็นต้องร่วมมือกับหุ้นส่วนที่แน่นแฟ้นของแมริออท ด้วยระเบียบแบบแผนที่ใช้กันอย่างทั่วถึง ควบคู่ไปกับบรรดาเจ้าของโรงแรมและผู้ซื้อแฟรนไชส์ของบริษัท โดยในอนาคตข้างหน้า เป้าหมายอาจรวมถึงการใช้พลังงานหมุนเวียนให้มากขึ้น, การสร้างกลไกทางระบบไฟฟ้าเพื่อใช้พลังงานหมุนเวียนให้เต็มที่ที่สุด, ปรับปรุงดัดแปลงมาตรฐานการออกแบบ เพื่อให้ตัวอาคารมีประสิทธิภาพมากขึ้น, และการติดตั้งระบบออโตเมชั่น และอัปเกรดประสิทธิภาพของพลังงาน (เช่น เครื่องวัดอุหภูมิภายในบ้านอัจฉริยะ) ทั้งนี้ ด้วยเป้าหมายของบริษัทที่จะขยายผลการส่งเสริมการจัดทำคาร์บอนฟุตพริ้นท์ขององค์กร และผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมของการเดินทางกับแมริออท แขกและลูกค้าจะได้พบว่าเราได้เพิ่มโฟกัสการปฏิบัติสู่แนวทางความยั่งยืนขององค์กร เช่น ลดขยะทั่วไปและขยะจากอาหาร ตลอดจนรักษาต้นทุนทางธรรมชาติ โดยให้แขกและลูกค้ามีโอกาสเข้าร่วมกิจกรรมต่างๆ เช่น การฟื้นฟูป่า การปลูกปะการังแ ละป่าชายเลน

เพื่อเป็นการสนับสนุนเป้าหมายเพื่อการพัฒนาที่ยั่งยืนของสหประชาชาติ หรือ United Nations Sustainable Development Goals (SDGs) การประกาศจุดยืนในครั้งนี้เป็นไปในแนวทางเดียวกับแพลตฟอร์มที่มุ่งสร้างความยั่งยืนและผลกระทบต่อสังคมของแมริออท นั่นคือ แพลตฟอร์ม เสิร์ฟ 360 : การทำดีในทุกทิศทาง (Serve 360 : Doing Good in Every Direction) ซึ่งเป็นแนวทางการให้คำมั่นของแมริออทในการช่วยแก้ปัญหาทางด้านต่างๆ ทั่วโลก ทั้งด้านสังคม สิ่งแวดล้อม และเศรษฐกิจ เพื่อมอบคุณค่าให้ผู้ร่วมงาน ลูกค้า เจ้าของ สภาพแวดล้อม และชุมชุมรอบโลก ตลอดจนสร้างเสริมประวัติที่มีมายาวนานของแมริออทในการสอดแทรกเรื่องความยั่งยืนเข้าไปในยุทธศาสตร์ทางธุรกิจ การปฏิบัติการ และห่วงโซ่คุณค่าอย่างทั่วถึง เริ่มต้นด้วยค่านิยมองค์กรในการดูแลโลกของเรา และจุดมุ่งหมายในการลดผลกระทบทางสิ่งแวดล้อมในยุคแรกของโรงแรม จนถึงการริเริ่มปฏิบัติการต่างๆ เพื่อลดขยะ แมริออทสนับสนุนให้ชุมชนที่โรงแรมดำเนินธุรกิจอยู่มีการพัฒนาด้านความยั่งยืน เช่นเดียวกับการทำให้ธุรกิจมีความยืดหยุ่นและยั่งยืน

ยุทธศาสตร์เพื่อความยั่งยืนของแมริออท ขับเคลื่อนโดยความคิดริเริ่มหลากหลาย เพื่อลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม ผ่านการก่อสร้างและดำเนินการของโรงแรมที่มีความยั่งยืน และรับผิดชอบในการเสาะแสวงหาสิ่งของต่างๆ ในขณะเดียวกันก็ปกป้องและฟื้นฟูระบบนิเวศซึ่งชีวิตต่างๆ ต้องพึ่งพาอาศัย โดยสิ่งต่าสงๆ ที่ได้ริเริ่มขึ้นเมื่อเร็วๆ ประกอบด้วย

  • ลดการใช้ “พลาสติกใช้ครั้งเดียวทิ้ง” ซึ่งรวมถึงการเปลี่ยนขวดบรรจุแชมพู คอนดิชันเนอร์ และเจลอาบน้ำขวดเล็กในห้องพักแขกที่ใช้ครั้งเดียว มาเป็นขวดหัวปั๊มขนาดใหญ่ขึ้น โดยจะทำให้เสร็จสมบูรณ์ทั่วโลกในปี2565 หลังจากนั้นจะขยายโครงการสู่การเปลี่ยนเครื่องใช้ในห้องน้ำของบริษัท โดยคาดหมายว่าจะช่วยลดขวดพลาสติกขนาดเล็กที่ต้องถูกทิ้งขยะประมาณ 500 ล้านขวด
  • โครงการรณรงค์ไม่ให้เกิด “ขยะอาหาร” ภายในโรงแรมและการให้ความรู้เรื่องการลดขยะ จัดทำขึ้นเพื่อสนับสนุนเป้าหมายของแมริออทในการลดขยะอาหารให้ได้50%
  • การเปิดตัวแนวทางการจัดหาอย่างมีความรับผิดชอบ ที่จะช่วยให้ชุมชน ซัพพลายเออร์ของแมริออท ได้ร่วมในเส้นทางสู่ความยั่งยืนในการจัดหาสิ่งต่างๆ อย่างรับผิดชอบ โดยจัดหา95% ของ 10 ประเภทสินค้าของบริษัทที่มีความสำคัญเป็นอันดับแรก
  • การพัฒนาฐานข้อมูลการรับรอง เพื่อช่วยให้โรงแรมได้ดำเนินการอย่างมีความรับผิดชอบมากขึ้น และเดินหน้าสู่เป้าหมายที่ทำให้การรับรองความยั่งยืนแก่บุคคลภายนอกได้100%
  • ปลูกต้นไม้มากกว่า415,000 ต้นในช่วงหลายปีที่ผ่านมา ผ่านการทำดำเนินงานของบริษัทในฐานะเป็นสมาชิกผู้ก่อตั้งของ Evergreen Alliance, เป็นหุ้นส่วนและผู้ให้ความร่วมมือกับ Arbor Day Foundation ซึ่งเป็นกลุ่มที่มุ่งมั่นรักษาต้นไม้และป่าในฐานะที่เป็นส่วนสำคัญในการแก้ปัญหาทางธรรมชาติ ตอบโจทย์เป้าหมายด้านความยั่งยืน และด้านพลเมืองขององค์กร  
  • โครงการฟื้นฟูระบบนิเวศอย่างมีนวัตกรรมและการกักเก็บคาร์บอน เช่น ทำงานร่วมกับThe Ocean Foundation เพื่อกำจัดสาหร่ายและนำมาใช้ใหม่ ซึ่งสาหร่ายนี้ทำให้เกิดผลเสียอย่างร้ายแรงต่อสภาพแวดล้อม

รายละเอียดอื่นๆ เกี่ยวกับปฏิบัติการทางด้านสิ่งแวดล้อม สังคม และธรรมาภิบาล ของแมริออท อินเตอร์เนชั่นแนล และเสิร์ฟ 360 สามารถเข้าชมได้ที่ Marriott.com/Serve360.